เคยสังเกตหรือไม่ว่า พระสงฆ์สุขภาพดี และแก่ช้ากว่าอายุ ทั้ง ๆ ที่พระสงฆ์ไม่สามารถออกกำลังกายได้ สมเด็จฯ แต่ละองค์ 90 ปีขึ้นไปทั้งนั้น แต่ดูเหมือนอายุของท่านสัก 70 กว่าปี คือดูอายุน้อยกว่าเป็นจริง 20 ปี
อะไรทำให้พระสงฆ์สุขภาพดีและแก่ช้า ต้องมาพิจารณาว่าพระสงฆ์ทำอะไรที่ต่างกับ ฆราวาส ทางด้านจิตใจแน่นอนพระสงฆ์จิตใจสงบอยู่ในศีลในธรรม ทางกายพระสงฆ์ปฏิบัติต่างกว่าพวกเราก็ตรงที่ท่านฉันภัตตาหารวันละ 2 มื้อคือ เช้า กับ เพล
จิตใจสงบและอยู่ในศีลในธรรม ทำให้ท่านมีความสุขทางใจ แน่นอนความสุขทำให้อายุยืน สุขภาพดี
แต่การที่พระสงฆ์ฉัน 2 มื้อ เช้ากับเพล จะเป็นผลทำให้สุขภาพดีและแก่ช้าจริงหรือไม่ เราลองมาวิเคราะห์ดู
จากงานวิจัยของกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับภาควิชาโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า พลังงานของอาหารไทย จะได้ 500 แคลอรีมื้อเช้า 700 แคลอรีมื้อกลางวัน 700-1500 แคลอรีมื้อเย็น ขึ้นอยู่ว่ากินในบ้าน หรือกินนอกบ้าน
พวกเราทุกคนรับประทานอาหารเช้า 500 แคลอรีจากเช้าถึงเที่ยง ใช้พลังงานไป 300 แคลอรีเท่ากับขี่จักรยานอยู่กับที่ความ 1.3 ก .ก. ขึ้นบันได 1 รอบ ต่อ 1 วินาที ขึ้นเป็นเวลานาน 1 ช.ม. (จากการทดลอง)
ฉะนั้น ถึงตอนเที่ยงพลังจะคงเหลือค้าง 200 แคลอรี แต่เมื่อรับประทานมื้อเที่ยงเข้าไปอีก 700 แคลอรี รวมกับที่เหลือของเก่ารวมเป็น 900 แคลอรี
จากเที่ยงถึงเย็นใช้พลังงานไปอีก 300 แคลอรี ทำให้เหลือค้างอีก 600 แคลอรี
ถามว่าถ้าไม่รับประทานอาหารเย็น 600 แคลอรีที่เหลือนี้จะพอทำให้เราดำรงชีวิตขณะนอนพอหรือไม่ เพราะขณะนอนหลับ หัวใจก็ยังเต้น ยังต้องหายใจ อาหารยังต้องย่อย ฯลฯ จึงต้องการพลังงานขั้นต่ำเพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ขณะหลับ สำหรับคนไข้ต้องการพลังงานขณะนอนหลับ ประมาณ 0.8 – 1.2 แคลอรีต่อนาที โดยเฉลี่ยคือ 1 แคลอรีต่อนาที ถ้าเรานอน 6-8 ช.ม. ต่อคืน เฉลี่ย 7 ช.ม. หรือ 420 นาที ซึ่งจะเท่ากับต้องการพลังงานขณะนอนหลับ 420 แคลอรี เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ ฉะนั้น 600 แคลอรีที่เหลือจึงเพียงพอ และยังเหลือใช้อีก 180 แคลอรี ซึ่งจำนวนนี้เองคือไขมันที่ตกค้างในหลอดเลือด
ถ้ารับประทานอาหารเย็นอีก 700 แคลอรี จะทำให้พลังงานเหลือจากที่ใช้ในการนอนเพิ่มเป็น 880 แคลอรี ทำให้ไขมันในหลอดเลือดสูงกว่า ไม่รับประทานอาหารเย็นถึง 4+ เท่า
ทีนี้มาลองดูกันว่า ถ้าไขมันในหลอดเลือดสูงจะเกิดอะไรขึ้น:-
- ปกติผนังหลอดเลือดเป็นกล้ามเนื้อเรียบจึงสามารถยืดตัวหรือหดตัวได้ เพื่อปรับความดันโลหิต เวลาหัวใจบีบตัวเต็มที่เพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย ความดันจะขึ้นสูงมากถึงขั้นเป็นอันตราย เส้นเลือดในสมองแตกได้ ฉะนั้นหลอดเลือดจะขยายตัวเพื่อลดความดันไม่ให้ขึ้นสูงมาก จะปรับความดันให้อยู่ประมาณ 110 – 120 ม.ม. ปรอท
ในทางตรงกันข้ามขณะหัวใจขยายตัวเพื่อรับเลือดที่ฟอกสะอาดแล้ว จากปอดเข้ามาในหัวใจ ความดันโลหิตจะตกลงต่ำมากถึงขั้นตายได้ เส้นโลหิตจะบีบตัวเพื่อไม่ให้ความดันตกลงไปมาก อยู่ที่ประมาณ 60-70 ม.ม.ปรอท เราจึงวัดความดันโลหิตได้ 120/60 ม.ม.ปรอท จึงจะเห็นได้ว่าเส้นเลือดเป็นตัวปรับความดันโลหิตให้ปกติ ถ้ามีไขมันไปพอกด้านในของหลอดเลือดจะทำการยืดตัวหดตัวของผนังหลอดเลือดทำได้ไม่สะดวก ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง
- ไขมันที่เกาะพอกที่ผนังหลอดเลือด จะทำให้รูหลอดเลือดเล็กลง เป็นผลให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ลดลงตาม จึงเป็นเหตุให้อวัยวะทั้งหลายเสื่อมเร็วขึ้น หรือแก่เร็วขึ้นเป็นผลทำให้สุขภาพโดยรวมเสื่อมลง
- ถ้าวันไหนไขมันอุดตันในเส้นเลือด เช่นที่สมอง จะทำให้เกิดอัมพาตครึ่งซีก ที่ไตทำให้ไตพิการต้องล้างไตเปลี่ยนไต ที่ขา ขาเน่า ต้องตัดขาทิ้ง ใส่ขาเทียม และถ้าไปตันที่กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เสียชีวิตเฉียบพลัน
ฉะนั้นพระสงฆ์ไม่ฉันเมื้อเย็น เป็นผลทำให้ไขมันในหลอดเลือดน้อยกว่าพวกที่รับประทานมื้อเย็น สุขภาพจึงเสื่อมช้า อายุยืน และชะลอวัยได้
โดยสรุป สาเหตุที่ทำให้สุขภาพเสื่อมและแก่เร็วก็คือ ไขมันในหลอดเลือด
ยิ่งไขมันในหลอดเลือดมาก ยิ่งสุขภาพเสื่อมเร็ว แก่เร็ว
ยิ่งไขมันในหลอดเลือดน้อย ยิ่งสุขภาพดี แก่ช้า